วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553

รายละเอียดชนิดฐานข้อมูลแบบ Text

หลังจากที่ได้รู้จักชนิดฐานข้อมูลทั้ง 8 ตัวไปแล้ว คราวนี้ก็มาดูรายละเอียดในแต่ละชนิดของข้อมูลกันบ้าง เริ่มด้วยข้อมูลชนิดที่เป็น Text เลย

เมื่อเราทำการสร้าง field ที่มีชนิดของข้อมูลเป็น Text เราก็จะสามารถเข้าไปกำหนดรายละเอียดของ field ตัวนี้ได้ดังนี้ ( Double click ที่ตัว field เลย )


เมื่อทำการเลือก option ของ field โดยการ double click ที่ตัว field แล้ว เราก็จะได้หน้าต่าง option ของ field ขึ้นมา ในตัวอย่างนี้ ผมตั้งชื่อ field ว่า test ครับ 

Tab แรกที่โปรแกรมเลือกให้เลย ก็คือ Tab Auto-Enter ซึ่งใน tab นี้จะประกอบไปด้วยการกำหนดค่าที่เป็นแบบอัตโนมัติ หรือ ใส่ค่าที่เรากำหนดให้เองเลย ประมาณนั้น จากที่เห็น เราก็จะสามารถทำการใส่ค่า วันที่ หรือ เวลา หรือแม้กระทั่งทำให้มัน run ค่าเป็นแบบ serial number ได้ด้วย นอกจากนี้ทางด้านท้าย ก็ยังมีคำสั่งป้องกันการแก้ไขค่าที่ทำการใส่แบบอัตโนมัตินี้อีกด้วย


Tab ที่ 2 ว่าด้วยเรื่องการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล เราสามารถบังคับได้ว่า ข้อมูลที่ user กรอกเข้ามานั้น ต้องเป็น number หรือ text เท่านั้น ใส่ได้กี่ตัว ห้ามเว้นว่าง ห้ามซ้ำกัน หรือ ทำให้อยู่ในช่วงที่กำหนด และยังสามารถ pop up ข้อความเตือนด้วยข้อความที่เราสามารถกำหนดเองจากช่องด้านล่างสุดอีกด้วย


Tab ที่ 3 ว่าด้วยเรื่องการกำหนดคุณลักษณะของ field นั้นแบบพิเศษ หลักๆ ก็คือ เราสามารถบอกให้ ทุก record ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงค่าใน field นี้ โดยการกำหนดให้เป็น Global Storage ความหมายก็คือ ถ้ากำหนด field ให้เป็น Global แล้ว เมื่อเราทำการใส่ค่าอะไรเข้าไปก็ตาม มันจะเป็นที่รู้จักในทุกๆ record เลย .. ถ้า งง เรื่อง record ก็ไปดูบทความก่อนๆ นะ และที่ เจ๋ง เราสามารถกำหนด array ให้กับ field นี้ได้ด้วย ใน filemaker pro มันใช้ชื่อว่า repeatition ซึ่งก็คือ การที่เราสามารถทำให้ filed 1 filed สามารถรับค่าที่แตกต่างกัน แต่เป็นชนิดข้อมูลเดียวกัน ได้หลายๆค่า อันนี้มีประโยชน์มาก จะพูดถึงในโอกาสต่อไป


Tab ที่ 4 นี้ มีประโยชน์สำหรับชาวญี่ปุ่นเท่านั้น ชาวไทยไม่ได้ใช้ และ ใช้ไม่เป็นด้วย .. จึงไม่มีอะไรอธิบายมาก เพราะเขียน - อ่าน ภาษาญี่ปุ่น ไม่เป็น .. จบข่าว สำหรับ รายละเอียดของชนิดข้อมูลแบบ Text เพียงเท่านี้



ชนิดของข้อมูลใน FileMaker Pro


ชนิดของข้อมูลใน File Maker Pro นั้นประกอบไปด้วยข้อมูลไม่มากมายครับ (ใน blog นี้ ผมใช้ FileMaker Pro version 11 ซึ่งเป็น version ล่าสุดนะครับ) ชนิดข้อมูลมีทั้งหมด 8 ชนิดด้วยกัน แต่ก่อนจะรู้จักชนิดของข้อมูล เรามาดูข้อจำกัดของโปรแกรม FileMaker Pro กันหน่อยนะครับ

1 File ที่สร้างจากโปรแกรม FileMaker Pro สามารถที่จะจุข้อมูลได้มากสุด 8 เทอราไบต์ (ไม่มากเท่าไร แค่ 8000 GB เท่านั้นเอง) ซึ่งใน 1 File ก็สามารถสร้าง table ในนั้นได้ถึง 1 ล้าน table ครับ และในแต่ละ table ก็สามารถสร้าง field ได้ถึง 256 ล้าน field เลยทีเดียวเชียวแหละ

อันนี้ก็ความสามารถคร่าวๆของมันนะ มีแบบละเอียดกว่านี้ แต่พูดไปสองไพเบี้ย เอ้ามาดูชนิดของฐานข้อมูลทั้ง 8 ตัวกันเลย


1. ข้อมูลชนิด Text

ชื่อก็บอกชัดเจน แจ่มแจ้งน้ำเงินแจ๋ว่าเป็นข้อมูลแบบตัวหนังสือและตัวเลขที่ไม่มีวัตถุประสงค์ในการเอาไปใช้คำนวณ  ซึ่งใน 1 field ที่มีชนิดข้อมูลเป็น text สามารถยัดตัวอักษรลงไปได้ถึง 2 GB เลย ดังนั้น file 1 file ของ filemaker pro ก็สามารถที่จะรองรับตัวอักษรได้เป็นพันล้านตัวอักษรเลย เขาว่างั้น

FileMaker จะทำการบันทึกอักษรทั้งหมด ในรูปแบบของ unicode นะครับ ดังนั้น font ที่ไม่ใช่ unicode ก็จะมีปัญหาในการทำงานกับ filemaker pro ได้ ให้ทราบเอาไว้ครับ สำหรับ font ที่จะแนะนำ หากเป็น font thai ก็ให้ไป download ได้ที่ www.f0nt.com (อ่านว่า เอฟ ศูนย์ เอ็น ที)




2. ชนิดข้อมูลแบบ Number

ชนิดข้อมูลแบบนี้ วัตถุประสงค์ก็เพื่อใช้ในการคำนวณโดยเฉพาะ ค่าที่เป็นไปได้ สำหรับบรรจุลง file type ชนิดนี้ตั้งแต่ 10 ยกกำลัง -400 ถึง 10 ยกกำลัง 400  อันนี้เป็นค่าบวกนะ ส่วนค่าลบก็ -10 ยกกำลัง -400 ถึง -10 ยกกำลัง 400 เช่นเดียวกัน

เป็นไงเล่า สะใจดีแท้ ...




3. ชนิดข้อมูลแบบ Date

เป็นชนิดข้อมูลสำหรับเก็บเรื่องวันที่โดยเฉพาะ หลักๆก็จะเก็บ วัน เดือน และ ปี แต่แม้กระทัั้ง version 11 ก็ยังทำงานไม่สมบูรณ์กับระบบวันที่ภาษาไทย แม้เราจะตั้งค่าเครื่องคอมให้ใช้ format วันที่เป็นภาษาไทยแล้วก็ตาม เรื่องปี มันก็ยังเอาปีคริสตศักราชมาแสดงให้ปั่นป่วนอยู่เสมอ

อันนี้ยังแก้ไม่ตก และไม่รู้ว่าจะแก้ไขได้อย่างไร แต่หาทางเลี่ยงในขั้นการสร้าง file ได้ Date สามารถเป็นได้ตั้งแต่ 1/1/1000 ไปจนถึง 12/31/4000 ครับ


4. ชนิดข้อมูลแบบ Time

ข้อมูลนี้ก็เป็นเรื่องของเวลาอย่างเดียวครับ เก็บละเอียดยัน 1/100 ของวินาที แม่นยำกว่าไซโก้

เรื่องของเวลา ไม่ค่อยเป็นปัญหาเท่าไร เพราะใช้มาตราฐานเดียวกันทั่วโลก และมันเป็นแค่ตัวเลขที่เป็นค่าบวกเท่านั้น ... เวลาจะเป็นลบได้ไง นอกเหนือจากเราจะมีเครื่องย้อนเวลา ซึ่ง เป็นไปได้ ...



5. ชนิดข้อมูลแบบ TimeStamp

เป็นชนิดข้อมูลใหม่ ที่เก็บมันทั้ง Date และ Time ในตัวเลข ค่าที่เป็นไปได้ มันก็เลยเป็น 1/1/1000 00:00:00 ถึง 12/31/4000 11:59:59.999999

เป็นชนิดข้อมูลที่ช่วยให้เราประหยัดเวลาในการเก็บทั้งวันที่ และ เวลา เพื่อนำมาใช้ในการเปรียบเทียบคำนวณทีหลัง โดยเฉพาะเรื่อง zone เวลาในแต่ละประเทศ แต่ผมไม่ค่อยได้ใช้ชนิดข้อมูลนี้เท่าไร เลยยังไม่เห็นประโยชน์ของมันเท่าไรครับ



6. ชนิดข้อมูลแบบ Container

ชนิดข้อมูลนี้ จะเก็บข้อมูลที่เป็น Binary เท่านั้น แล้วมันคืออะไร ก็คือข้อมูลที่ไม่ใช่ text ไม่ใช่ number หน่ะสิ ... Binary ส่วนใหญ่แล้ว จะเป็นข้อมูลที่เป็นรูปภาพ หรือ ภาพเคลื่อนไหว เพลง หรือ เป็น file ที่มาจากโปรแกรมอื่น

1 field ที่เป็นชนิดข้อมูลนี้ สามารถที่จะจุข้อมูลได้เต็มที่ขนาด 4 GB ครับ โตกว่านี้ไม่รับ และการเก็บก็แยกออกเป็น 2 แบบคือ like จาก filemaker pro ไปหาตัวข้อมูล หรือ เอาข้อมูลมายัดใน filemaker pro เลย แบบแรกจะดีตรงที่ file ที่สร้างมันจะเล็ก อย่างหลัง file จะโตตามขนาดของข้อมูล

7. ชนิดข้อมูลแบบ Calculation

เป็นชนิดของข้อมูลที่พิเศษตรงที่ มันจะต้องมีการคำนวณ หรือ เปรียบเทียบ เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลผลลัพธ์ในแบบที่ต้องการ โดยผลลัพธ์สามารถที่จะเป็นข้อมูลชนิดอื่นๆได้ด้วย จัดเป็นชนิดข้อมูลที่ได้ใช้บ่อย เพราะยืดหยุ่นเหลือหลาย ลูกเล่นแพรวพราวอีกต่างหาก

ถ้าได้ลองแล้วจะติดใจ



8. ชนิดข้อมูลแบบ Summary

ชนิดข้อมูลนี้ เกิดมาเพื่อสร้างผลรวมโดยเฉพาะ ประหยัดเวลาของเราในการที่จะต้องไปใช้ function ในการคำนวณเพื่อหาผลรวมให้วุ่นวาย

ชนิดข้อมูลนี้มีประโยชน์สำหรับฐานข้อมูลที่เป็นพวกการคำนวณเพื่อแสดงผลลัพธ์โดยเฉพาะ แต่ก็สามารถประยุกต์ใช้ได้หลายๆแบบครับ




ตอนต่อไป ผมจะได้ลงลึกเข้าไปในชนิดของข้อมูลแต่ละตัว เพราะในแต่ละชนิดของข้อมูลนั้น ยังสามารถกำหนดลูกเล่นต่างๆ นาๆ ให้แจ่มไปเลยได้อีกด้วย

โปรดติดตามตอนต่อไป เมื่อมีเวลาเขียนต่อ ... แท่น แทนนนนนน

วันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2553

พื้นฐานระบบฐานข้อมูล



ส่วนตัวแล้ว ตอนเรียนไม่ชอบ Database เท่าไร เพราะมันต้อง design กันละเอียดมาก ไม่นึกเหมือนกันว่ามาทำงาน มันจะได้ใช้เป็นเรื่องเป็นราว โปรแกรมทำ DataBase แบบกึ่งสำเร็จรูป ที่เคยลองแบบไม่เต็มใจ เพราะไม่ชอบหน้าตาการใช้งานของมัน ก็คือ MS Access แบบว่า มันต้องกำหนดรายละเอียดเยอะจนเกินไป และก็หน้าตาสำหรับผู้ใช้งานออกแบบได้ห่วย ก็เลยไม่ชอบใจตั้งแต่นั้นมา จนมาเจอโปรแกรม FileMaker Pro ที่เจอนี่ ก็เพราะคลุกคลีกับเครื่อง Mac มาพอสมควร โปรแกรมฐานข้อมูลบน Mac ก็มีไม่มาก FileMaker Pro เลยเป็นตัวเลือกเดียว

ทันทีที่ได้ใช้งาน ก็รู้เลยว่า โปรแกรมนี่แหละ ใช่เลย เหมือนคุ้นเคยกันมาเป็นอย่างดี อยากจะให้มันทำอะไร เกี่ยวกับ Database งมๆ เอาไม่นานก็ได้คำตอบและวิธีการ และแล้วก็ได้ใช้งาน FileMaker Pro มาได้นานพอสมควร ก็เลยจะมาถ่ายถอดประสบการณ์ให้ละกัน เพราะลองค้นหาดูบน Internet ก็ไม่ค่อยมีใครสอนกันแหะ

ก่อนจะว่ากัน ก็ออกตัวก่อนว่า ผมไม่ได้เก่งเรื่อง Database เท่าไร และก็ไม่ได้เป็นเซียนเรื่องการเขียนโปรแกรมด้วย ผมก็เหมือนคน IT ของไทยทั่วไป ที่ทำทุกอย่างได้เกือบหมด แต่ไม่เชี่ยวชาญสักอย่างหน่ะครับ ที่จะเอามาเล่าให้อ่าน ก็คือประสบการณ์จากการทำงานเท่านั้นเองครับ

อย่างแรกก็อยากจะให้ผู้อ่านรู้จักโครงสร้าง Database อย่างง่ายๆ ก่อน เพราะมันจำเป็นที่จะต้องรู้โครงสร้างก่อน ไม่งั้น งงแน่นอน โครงสร้างมันก็ง่ายๆ เปรียบเทียบเอาแบบที่ผมเข้าใจได้ดังนี้

การเก็บข้อมูลสมัยยังไม่มี computer :

ถ้าเราจะเก็บข้อมูลของพนักงานทุกคนในบริษัทหนึ่งๆ สมมุติว่ามี 100 คน แน่นอนว่า เราก็ต้องมีกระดาษ 100 ใบ (สมมุติว่าคนละใบ อย่าคิดอะไรให้วุ่นวายสำหรับเก็บข้อมูลของทุกคน ถ้าดึงเอากระดาษข้อมูลของใครสักคน ออกมาดู แน่นอนอีกว่าโครงสร้างของการบันทึกข้อมูลแต่ะละคน มันต้องเหมือนๆกัน เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทร อะไรทำนองเนี่ย โดยมากก็จะพิมพ์หัวข้อที่ต้องการไว้ก่อนแล้วค่อยมาเติมข้อมูลทีหลัง เมื่อได้ข้อมูลครบ 100 คน แล้วก็เก็บรวมกันไว้ในแฟ้ม เขียนชื่อแฟ้มว่า ข้อมูลพนักงาน เวลาจะหาข้อมูลใครสักคน ก็ต้องเอาแฟ้มมาเปิด แล้วก็ไล่เปิดหาเอาจนกว่าจะเจอ

ต่อมามีคอมพิวเตอร์แล้ว :

กระดาษเริ่มใช้น้อยลง แต่ก็ยังต้องใช้อยู่ดี ที่เปลี่ยนก็คือปรับทุกอย่างที่อยู่บนกระดาษให้มาอยู่บน computer
หัวข้อที่เว้นว่างให้กรอกข้อมูลบนกระดาษนั้น มาอยู่บน file maker pro มันเรียกว่า field
กระดาษแต่ละแผ่นที่บันทึกข้อมูลหลายๆอย่างของพนักงานแต่ละคนนั้น มันก็คือ 1 record (ใน 1 record จะประกอบไปด้วย field อย่างน้อย 1 field ก็เหมือนข้อมูล 1 คน ประกอบไปด้วย ชื่อ อย่างเดียว เป็นอย่างต่ำ)
แฟ้มที่รวมกระดาษทุกใบของพนักงานทั้งหมด ก็ถูกเรียกว่า File (ดังนั้น 1 file ก็จะประกอบไปด้วย record อย่างน่้อย 1 record ไง ไม่งง นะ)

เขียนเป็นโครงสร้างได้ดังนี้
1 File  --> หลายๆ Record (อย่างน้อยสุดก็ 1 record) --> หลายๆ Field (อย่างน้อยสุดก็ 1 field)

คราวนี้ เมื่อมีหลาย File เข้า มันก็ต้องทำ Folder เก็บหลายๆ File นี้ไว้ด้วยกัน และจะเกิดเป็นระบบฐานข้อมูลใหญ่ขึ้น เมื่อทำการเชื่อมแต่ละ file เข้าด้วยกัน อันนี้ว่ากันทีหลัง เพราะมันวุ่นวายพอสมควรครับ

การแก้ปัญหาภาษาไทยบน FileMaker สำหรับ Version 9

สำหรับใครที่มี FileMaker Pro 9 (Mac)
ต้องการแก้ปัญหาภาษาไทย ที่พิมพ์สระบนล่างไม่ได้


วิธีการแบบเดียวกับ version 10

1. ดาวน์โหลดไฟล์ “filemakerpro9.0v3_inputthai.zip” ตามลิงค์ http://ifile.it/0lm1q4y หรือ http://www.mediafire.com/?tmjtfzhywgx

2. แตกไฟล์ออกมา ได้ 2 โฟลเดอร์ + 1 ไฟล์ ….(”WRLinguistics.framework” “WRServices.framework” และ “FileMaker Pro”)….

3. เปิด Finder, ไปที่ Applications แล้วก็ ดับเบิลคลิกเข้าไปในFile Maker Pro 9
แล้วคลิกขวาที่ “Filemaker pro” เลือก Show Package Contents,
จะเห็นโฟลเดอร์ “Contents”,
คลิกต่อเข้าไป จะเห็นอีก 4 โฟลเดอร์ คือ “Frameworks”, “MacOS”, “Plugins”, และ “Resources”

4. ก๊อปปี้ 2 โฟลเดอร์ ที่แตกออกมา คือ “WRLinguistics.framework” และ “WRServices.framework”
แล้ว Paste ทั้ง 2 รายการไปใน โฟลเดอร์ “Contents/Frameworks”
ถัดไป ก๊อปปี้ ไฟล์ “Filemaker Pro” แล้ว Paste ไฟล์ไปไว้ใน โฟลเดอร์ “MacOS” ทับไฟล์เดิม
(หมายเหตุ: FileMaker Pro ที่ใช้อยู่เดิม ควรเป็นเวอร์ชัน 9.0v3
ถ้าไม่ใช่ ให้อัปเดตก่อน ตามลิงค์ http://www.filemaker.com/support/downloads/index.html)
เรียบร้อยแล้ว เปิดโปรแกรมใช้ดู ควรจะพิมพ์ไทยได้ถูกต้อง ทั้งสระบนและล่าง

(เวลาออกแบบเลย์เอาท์ ให้ใช้ฟอนต์ภาษาไทยตระกูลของวินโดว์ เช่น Angsana, Browallia,…… )
หวังว่าคงใช้ได้ โดยไม่มีปัญหา


=========================
อันนี้สำหรับ File Maker Pro บน Window
————————————————-

สำหรับ FileMaker Pro 10 Advanced ทำให้พิมพ์สระบน สระล่างและวรรณยุกต์ได้
1. ต้องมีโปรแกรม FileMaker Pro Advanced version 10.0v1 (Windows) ใช้งานอยู่แล้ว

2. ดาวน์โหลดไฟล์ FMProAdv10.0v1TypeThai.rar ตามลิงค์ h..p://ifile.it/s1qj3t0 หรือ h..p://www.mediafire.com/?0jjjviy5jmn

3. แตกไฟล์ออกมา ได้โฟลเดอร์ “FileMaker Pro 10 Advanced” และไฟล์ภายในโฟลเดอร์จำนวนหนึ่ง

4. ก็อปไฟล์ทั้งหมด ลงไปในโฟลเดอร์ “\Program Files\FileMaker\FileMaker Pro 10 Advanced” ทับไฟล์เดิม

เสร็จแล้ว เปิดโปรแกรมใช้งานดูได้
ควรจะพิมพ์สระและวรรณยุกต์ได้ปรกติ
ถ้ามีปัญหาประการใด ต้องขออภัยด้วย
====================================
เป็นพระเอกขี่ม้าขาวจริงๆครับ เพราะถ้าจะรอให้ทาง FileMaker เขาทำให้ภาษาไทยสมบูรณ์นั้น รอไปเถอะ อย่าหวังให้มาก …
คราวนี้ก็ใช้งานภาษาไทยได้อย่างสมบูรณ์แล้ว เพราะจากการทดสอบใน Mode Browse และ Mode Find พร้อมทำการ export เป็น PDF แล้ว สามารถใช้งานได้อย่างดีเลยครับ เก่งมากๆ เลยครับ ที่ต้องเอาข่าวนี้คั่นก่อน เพราะถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มากที่เดียว หากพิมพ์ไทย ไม่ได้ก็ไม่ work แน่สำหรับการพัฒนา application สำหรับคนไทย

การแก้ปัญหาภาษาไทยบน FileMaker version 10

FileMaker Pro ที่พิมพ์ไทยได้อย่างสมบูรณ์นั้น คือ version 2.1 หน่ะครับ ทำงานบนเครื่อง Mac ใช้ OS 7 – OS9 จากนั้นมา ผมมาเจออีกที่ ก็เป็น version 5 และก็ 6 ที่ยังพิมพ์ได้ไทยได้นะ แล้ว version 7 ก็ทำให้ผิดหวังอย่างแรง เนื่องจากพิมพ์สระไม่ได้เลย เลยเถิดมาจนถึง version 8, 8.5, 9 และก็ 10 ก็ยังพิมพ์สระไม่ได้ ต้องใช้วิธีเลี่ยงคือ

- ไปพิมพ์ไทยในโปรแกรมอื่นก่อน จากนั้นก็ copy แล้วเอา paste ใน field ที่ต้องการ

- ไม่งั้นก็เปิดใช้ web function แล้วกรอกภาษาไทยผ่านทางหน้า web แทน
- สุดท้าย ผมใช้ function show dialog box ในการรับค่าภาษาไทยแทน ก็พอถูไถไปได้ แต่ไม่เหมาะสำหรับข้อความยาวๆ

และแล้วก็มีช้างเผือกในป่าใหญ่ มาทำให้มันพิมพ์ไทยได้ โอ้ววว แจ่มมาก ต้องยกควาามดีให้คุณ ชัยยา ครับ (ทราบแต่ชื่อ ไม่รู้ว่าเป็นใคร มาจากไหนหน่ะครับ) ผมไปเจอกระทู้ที่แกตอบเรื่อง Thai input ใน File Maker Pro จาก www.freemac.net พอดี ก็เลยขอ copy ข้อความนำมาเผยแพร่ต่อนะครับ

อันนี้สำหรับ File Maker Pro บน Mac
—————————————-

ลองใช้วิธีนี้ จะทำให้ Filemaker Pro 10 (Mac) พิมพ์ไทยได้ปกติ (พิมพ์สระและวรรณยุกต์ได้)
1. ดาวน์โหลดไฟล์ “filemakerpro10.0v1_inputthai.zip” ตามลิงค์ http://ifile.it/xnh4u65 หรือ http://www.mediafire.com/?lmtydzhuijj


2. แตกไฟล์ออกมา ได้ 3 โฟลเดอร์ + 1 ไฟล์


3. เปิด Finder, ไปที่ Applications แล้วก็ ดับเบิลคลิกเข้าไปในFile Maker Pro 10
แล้วคลิกขวาที่ “Filemaker pro” เลือก Show Package Contents,
จะเห็นโฟลเดอร์ “Contents”,
คลิกต่อเข้าไป จะเห็นอีก 4 โฟลเดอร์ คือ Frameworks, MacOS, Plugins, และ Resources,


4. ก๊อปปี้ 3 โฟลเดอร์ ที่แตกออกมา คือ “FmEngine.framework, WRLinguistics.framework และ WRServices.framework”
แล้ว Paste ทั้ง 3 รายการไปใน โฟลเดอร์ “Contents/Frameworks” ทับของเดิม (ถ้ามี)
ถัดไป ก๊อปปี้ ไฟล์ “Filemaker Pro” แล้ว Paste ไฟล์ไปไว้ใน โฟลเดอร์ “MacOS” ทับไฟล์เดิม

เรียบร้อยแล้ว ลองเปิดโปรแกรมใช้งานดู
จะพิมพ์ไทยได้ (รวมสระและวรรณยุกต์)
แต่ยังอาจมีปัญหาอีกเล็กน้อยกับการพิมพ์ไม้เอกและไม้โท เนื่องจากฟอนต์ภาษาไทยในระบบของ Mac เองที่ไม่สมบูรณ์
แก้โดยติดตั้งฟอนต์ของวินโดว์ เช่น Angsana, Browallia,… ตามแต่ชอบ
แล้วเวลาออกแบบเลย์เอาท์ ให้เลือกใช้้ฟอนต์ของวินโดว์ที่เราติดตั้งไว้
คราวนี้ ก็พิมพ์ไทยได้เป็นปรกติ

………..######…………..
หมายเหตุ: FileMakerPro10.0v1 Advanced ก็สามารถทำตามแบบนี้ได้
ทดลองดูได้ หวังว่าจะใช้ได้ตามที่ต้องการ

FileMaker ใช้ทำอะไรได้บ้าง

โปรแกรม FileMaker Pro เท่าที่ผมรู้จัก เหมาะมากสำหรับการจัดทำฐานข้อมูลทุกประเภทที่ได้ใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยที่ใช้เวลาเรียนรู้น้อย มีโปรแกรมอยู่มากมายหลายประเภทบนโลกนี้ ที่สามารถจัดทำฐานข้อมูลได้ดีและเร็วกว่า FileMaker Pro แต่พวกนั้นต้องการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านอยู่เหมือนกัน แถมค่าตัวแพงมากๆ 



ดังนั้น หากท่านต้องการสร้างฐานข้อมูลขนาดเล็ก (จริงๆ ก็ไม่เล็กเท่าไร ใหญ่ก็ได้) สำหรับช่วยให้ท่านทำงานได้เร็วขึ้น FileMaker คือตัวช่วยที่ดีมากเลย ....

ว่าแล้ว เราก็มาลองเรียนรู้ด้วยการลองทำฐานข้อมูลจริงๆ เลยดีกว่า .... อย่างแรกก็มาเริ่มกระบวนการในการเตรียมความพร้อมเสียก่อน สิ่งที่ท่านต้องมี สำหรับอ้างอิงการทำงานกับ Blog นี้ก็คือ

1. โปรแกรม FileMaker Pro Advanced version 11 ที่ไม่จำเป็นต้องพิมพ์ไทยได้สมบูรณ์ ซึ่งก็สามารถ download trail version ได้จาก www.filemaker.com ครับ ฟรี .. เอามาลองใช้กันดู

2. Font ภาษาไทย ที่เป็น unicode ก็ให้ไป download font สวยๆ มาสักตัวที่ www.f0nt.com 

เมื่อได้ทั้ง 2 อย่างแล้ว ก็ให้ทำการ install font ลง ระบบไปก่อน
window --> start --> setting --> control panel --> font (เลือก view ให้เป็นแบบ classic เสียก่อน จะได้เห็นทุก folder ใน control panel)
Mac --> hdd --> library -- fonts

แล้วจากนั้นก็ install โปรแกรม Filemaker ตามมาเลย ... 

เมื่อเสร็จสรรพทุกอย่างแล้ว บทความต่อไป ก็จะอธิบายการใช้งานโปรแกรมไปพร้อมๆ กับการทดลองสร้างฐานข้อมูลอย่างง่ายไปเลย

โปรแกรมฐานข้อมูลกึ่งสำเร็จรูป ตรา FileMaker

สวัสดีขอรับ

ได้โอกาสกลับมาแบ่งปันความรู้ให้ท่านผู้หลงเข้ามาอ่านอีกที เกี่ยวกับเรื่องชีวิตประจำวันครับ Blog อันนี้ก็ให้มาว่าด้วย โปรแกรมที่ใช้ทำระบบฐานข้อมูลครับ ซึ่งมีมากมายหลายหลาก ทั้งฝั่ง window ก็จะติดมากับชุด MS Office เลย ก็คือ MS Access แต่หากเป็นทางฝั่ง Mac ก็นี่เลย File Maker Pro ซึ่งปัจจุบัน FileMaker Pro ก็ทำงานได้ทั้งบน Mac และ PC นะครับ

ผมเองไม่มีส่วนได้เสียกับ บริษัท FileMaker ครับ แต่จะว่าไป ก็มีส่วนที่ต้องเสียตังค์ซื้อโปรแกรมมาใช้งานอยู่เหมือนกัน เอาเป็นว่า ก่อนที่ตัวเองจะละลาจากโลกนี้ไป ซึ่งเมื่อไรก็ไม่รู้ ก็ทิ้งความรู้ติดปลายหางอึ่งเล็กๆ ไว้ให้ฅนรุ่นต่อไป ได้ศึกษา จะได้ไม่ต้องลองผิดลองถูก และจะได้พัฒนาให้มันรุดหน้าขึ้นไปอีก

เอ้า มาว่ากัน ... เนื่องจากเป็น Blog ส่วนตัว ก็จะไม่ทางการล่ะนะ ...

โปรแกรม File Maker Pro สร้างจากบริษัท FileMaker โดยใครไม่สำคัญ แต่ที่อยากแนะนำให้ใช้ เพราะว่า ผมไม่ชอบหน้าตาการใช้งานของ MS Access ก็เลยมองหา Database ที่คู่ควร ... FileMaker นี่แหละ ใช่เลย เพราะมันหน้าตาดี และง่ายต่อการทำความเข้าใจหน่ะ



ทีนี้มาว่าด้วยเรื่องข้อจำกัดของโปรแกรม FileMaker สำหรับคนไทยโดยเฉพาะก็คือ มันทำงานกับภาษาไทยได้ไม่สมบูรณ์ แต่คนไทยเราก็แก้ไขให้เรียบร้อย แม้จะไม่พันเปอร์เซนต์ แต่ก็เลย 800% ก็แล้วกัน เสียอย่างเดียว หากดันไป upgrade เป็น version ใหม่ๆ เราก็จะเสียคุณสมบัติการทำงานกับภาษาไทยไป ดังนั้น ... install แล้ว อย่าได้ทำการ upgrade เด็ดขาด

ใครที่ต้องการโปรแกรมตัวที่แก้ไขให้สามารถพิมพ์ไทยได้ ก็ Download ได้จาก http://www.cnxwalkingstreet.com/download/fmp11.zip นะครับ version ที่ผมให้ download ก็คือ version 11v1 ส่วนได้โปรแกรมจากที่ใดนั้น ไม่ต้องถาม แต่ไม่ใช่ผมก็แล้วกันที่เป็นคนแก้ไขให้มันพิมพ์ไทยได้หน่ะ อ้อ .. download โปรแกรมแล้ว รบกวนไปหา serial เองนะครับ เพราะที่ให้ download ก็คือตัว installer ที่แก้ไขให้มันพิมพ์ไทยได้เท่านั้นเอง ไม่ได้ crack โปรแกรมให้มันทำงานได้เลย ... การ install ยังต้องการ serial number อยู่ดี

ถ้าท่านใช้งานในธุรกิจ ก็แนะนำให้ซื้อเสียนะครับ ทีมงานพัฒนาโปรแกรมเขาจะได้มีกำลังใจ อีกอย่าง เวรกรรมมีจริง ถ้าท่านใช้งานโปรแกรมที่ crack มาในการหาเงินเข้ากระเป๋าตัวท่านเอง โดยที่ไม่มีการสนับสนุนผู้พัฒนาเสียบ้าง เวลาที่ท่านทำงานอะไรออกมา ก็จะโดนเขา copy เอาไปบ้าง หรือไม่งั้นเงินที่ได้มาจากการใช้ program crack ก็จะมีเหตุให้ต้องเสียออกไปในเร็วไว ไม่เชื่อลองดู ...